ตรอกความคิดของผู้ชายที่ชื่อว่า “เบส”

-

คำนำ

                                                                 สวัสดีครับ นี่เป็นอีกหนึ่งหน้าของเว็ปไซด์ ที่ไม่ได้ทำทางเข้าเอาไว้ให้ใครเห็น เพราะเจตนาที่ทำหน้านี้ขึ้นมา ก็เพียงเพื่อใช้พูดกับตัวเอง และบันทึกในส่วนที่ไม่จำเป็น หรือไม่เหมาะสมที่จะพูดคุยหรือเปิดเผยกับใคร แต่ก็ไม่ใช่ความลับที่คนอื่นจะดูไม่ได้ และอีกอย่าง จริงๆแล้วในหัวสมองของผมมันค่อนข้างที่จะอ่อนไหวในรายละเอียดของแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คำพูด เหตุการณ์ทุกๆอย่างรอบตัว มันจะถูกวิเคราะห์และกลั่นกรองถึงเหตุผล และความเป็นไปได้ในหลายๆทาง หลายๆคำตอบ ซึ่งเมื่อก่อนผมว่ามันเป็นข้อดี เพราะยังประมวลผลได้ไว แต่พออายุเยอะขึ้น ผมว่ามันเริ่มจะเป็นปัญหา เพราะการทท่ปละมวลผลในหลายทิศทางมันจะทำให้เกิดความลังเลหากเราทำมันช้า อย่างเช่นเมื่อผมเดินผ่านประตูและเอื้อมมือไปเปิดประตู ทุกคนก็แค่ผ่านมันไปแค่นั้น แต่สำหรับผมช่วงเวลาเพียงเซี้ยวก่อนจะสัมผัสประตู ผมจะสร้างตัวผมเองขึ้นมาในหลายบริบทคนนึงผลักประตูเข้าไป คนนึงดึงประตู และแทบทุกๆทางที่พอจะทำกับประตูนั้นได้ ภายใต้โจทย์ของคำว่าเปิดประตู แล้วผมจะนำบริบทต่างๆเหล่านั้น กลับมาเทียบ และวิเคราห์ หาทางที่ดีที่สุดมีเหตผลดีที่สุด กระบวนการทุกอย่าง จะเสร็จสิ้นก่อนทำการเปิดประตูพอดี  ผมมองทุกอย่างเป็น วิทยาศาสตร และศิลปะ เอาจริงๆแล้ว ผมเป็นคนช่างคิดช่างจินตนาการ (เป็นจินตนาการที่วางอยู่บนเหตผล ไม่ใช่เพ้อเจ้อ) บางคนก็เรียกสิ่งที่ผมทำว่าบ้า แต่สำหรับผม มันเป็นกระบวนการที่ทำให้ผมค่อนข้างทำงานในสายบันเทิงได้ดี  และเป็นที่น่าพอใจ และทำให้ผมไปแตะจุดสูงสุดในสิ่งที่ตั้งใจได้ และด้วยสิ่งที่มันหลั่งไหลออกมามีมากและเต็นไปด้วยเหตุและผล ผมจึงต้องปล่อยมั้นออกมาเป็นตัวหนังสือ  ดีกว่าจะให้มันวิ่งอยู่ในหัวจนมากเกินไป

                                                                                                                             ทุกวันนี้ผมก็พักความคิดโดยการหันมาทำงานที่ไม่ต้องคลีเอท เป็นงานที่รับคำสั่งและทำ แต่ก็มีบางครั้งที่มันต้องการเตุและผล ซึ่งยากขึ้นทุกวัน ทั้งโจทย์และผู้คน ซึ่งบางทีโจทที่ให้ผมแตกต่างกัน แตกลับต้องการผลลัพที่เหมือนกัน  ซึ่งบางทีมันทำให้ผมสับสนที่จะเลือกโจทย์และวิธีทำอย่างใดอย่างหนึ่ง บางคนให้ผมไปทางซ้าย บ้างก็ทางขวา บางคนบอกควรจะตรงไป  แต่เมื่อกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้น กลับกลายเป็นทุกโจทย์วนมาบรรจบที่จุดเดียวกัน ซึ่งหลายๆคนมองแล้ว มันก็จะคล้ายๆ สิ่งที่ผมทำอยู่นิ คือจินตนาการไปหลายๆทาง  แต่หยุดก่อน สองสิ่งนี้แตกต่างกันสุดขั้ว เพราะสิ่งที่ผมทำ เกิดจากผมคนเดียว และเลือกเดินเพียงทางเดียว แต่กับอย่างหลัง มันเกิดจากหลายคนหลายโจทย์ และแน่นอน ทุกคนต้องยกให้โจทย์และวิธีของตัวเอง ถูกต้องและที่สุด บางคนสั่งห้าม บางคนสั่งทำ สถานะการณ์นี้ สิ่งที่ผมเลือกทำคือไม่ใช่ทางที่ดีและถูกต้อง แต่เลือกทำในเส้นทางและวิธีที่คันนั้นๆถูกใจแทน โดยวางสิ่งที่ถูกต้องจริงๆไว้ข้างหลัง เพื่อตัดความขัดแย้งที่จะเกิด ซึ่งบางที่ก็ทำให้สับสนและเลือกทำผิดวิธี